ESEE Knives – An Introduction

Mike Perrin

ESEE knives เริ่มก่อตั้งโดย Jeff Randall และ Mike Perrin ภายใต้ชื่อ Randall’s Adventure & Training (RAT) ในปี 1977 ด้วยความชอบ และชำนาญการ ดำรงชีพในป่า เพื่อนซี้สองคนนี้ รักการผจญภัยเป็นชีวิตจิตใจ เขามักจะเดินทางดั้นด้น ไปในที่ที่ ยังไม่มีใครค้นพบ จนเปิดหลักสูตร สอนการดำรงชีวิตในป่า ให้กับทหาร, ตำรวจ และประชาชนที่สนใจ

จากประสบการณ์การสอน ทำให้พวกเขารู้ว่า มีดที่มีขายอยู่ในเวลานั้น ไม่มีชนิดไหน ที่ตอบสนองความต้องการ สำหรับใช้กับภารกิจ การดำรงชีวิตในป่า ของพวกเขาได้ ยกตัวอย่าง มีด machetes ซึ่งมีขนาดใหญ่และใบมีดยาว แต่มีความบาง บ่อยครั้งเกิดการบิดตัว จนใช้งานยาก

ในขณะที่มีดพับ ก็มีขนาดเล็กเกินไป และไม่เหมาะกับงานตัด, เฉือน ฯ ด้วยเหตุนี้ Jeff และ Mike จึงเริ่มออกแบบมีด RTAK ขึ้นมาเป็นครั้งแรก โดยตั้งใจ ให้เป็นมีด ที่เหมาะกับ การใช้งานในป่าเหมือน Machetes แต่ใช้งานได้ สะดวกและทนทาน เหมือนมีดใบตาย (fixed blade)

Jeff Randall

หลังจากได้ต้นแบบที่พอใจ Jeff และ Mike ได้นำต้นแบบ ไปคุยกับบริษัท ผู้ผลิตมีด Newt Livesay of Wicked Knife Co. เพื่อผลิตมีด RAT รุ่นแรก ซึ่งหลังจากที่ มีดรุ่นแรกผลิตออกมา ก็ได้รับการตอบรับ จากผู้ใช้งานเป็นอย่างดี จึงต้องหาโรงงาน ผลิตซึ่งต้องมีกำลังผลิต จำนวนมากขึ้น

ในปี 2002 Randall’s Adventure & Training (RAT) ได้ตกลงทำสัญญากับ Ontario Knife Co. โดย RAT ให้สิทธิบัตร ในการผลิตมีด RTAK แก่ Ontario เป็นเวลา 5 ปี ในระหว่างนั้น RAT ได้พัฒนารูปแบบ มีดรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาอีกหลายรุ่น จนมีด RAT เป็นที่นิยมในวงกว้าง ไม่เฉพาะในกลุ่ม นักเรียนของ RAT เท่านั้น แต่ยังเป็นที่ นิยมอย่างมาก ในวงการทหาร และตำรวจ จากทั่วโลก จนได้รับ การร้องขอจากผู้ใช้ ให้ปรับปรุงมีด ขึ้นเป็นลำดับ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น คือโรงงาน Ontario ปฏิเสธการผลิต มีด Custom เพื่อลูกค้าเฉพาะกลุ่ม หรือมีดสำหรับ ภารกิจพิเศษ

Original RTAK Knife by Newt Livesay

ดังนั้นหลังจาก หมดสัญญากับ Ontario ในปี 2007 ทั้ง Jeff และ Mike จึงเลือกที่จะผลิต ด้วยตัวเองแทนที่จะ ต่อสัญญาจ้างกับ Ontario ทำให้มีดในชื่อ RAT Cutlery ถือกำเนิดขึ้น จุดประสงค์ของ Jeff และ Mike คือ พยายามผลิตมีดที่ดี และเหมาะกับการใช้งาน ให้ดีที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ ในขณะที่ ยังรักษาราคา ที่คนทั่วไป สามารถเป็นเจ้าของได้ อีกทั้งยัง ต้องเป็นมีด ที่มีความทนทานสูง ใช้งานง่าย ไม่สร้างปัญหา เมื่อใช้ในสถานการณ์จริง พร้อมทั้งคุณภาพที่สูงขึ้น ข้อได้เปรียบ ในการผลิตมีด เพื่อใช้งานเอง คือ การตัดสินใจ และรูปแบบ ที่ต้องการ ไม่ได้ออกมาจาก มติที่ประชุม ในรูปแบบบริษัท แต่มาจาก การได้พูดคุย และรับฟังปัญหา โดยตรงจากลูกค้า จึงทำให้สามารถ พัฒนาและปรับปรุงมีด ให้สมบูรณ์ ตามความต้องการ ของผู้ใช้งาน อย่างแท้จริง

ด้วยเหตุนี้ RAT Cutlery ได้ร่วมมือกับ โรงงานผลิต Rowen Manufacturing เพื่อสร้างมีด ตามจินตนาการของพวกเขา ให้เป็นจริง มีดรุ่นใหม่นี้ ใบมีดทำจากวัสดุ high carbon 1095 ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยม ด้านความทนทาน และสามารถลับใบมีด ได้ง่ายเมื่ออยู่ในป่า และการเคลือบผิวด้วย Power Coated ในขั้นตอนสุดท้าย ช่วยเพิ่มความทนทาน และป้องกัน การสึกกร่อนได้ดี

Jeff และ Mike ทำงานร่วมกับ Rowen Manufacturing ภายใต้ข้อตกลงที่ว่า พวกเขาต้องมีส่วนร่วม ในกระบวนการผลิต รวมถึงการควบคุม คุณภาพมีด ไปจนถึงขั้นตอนสุดท้าย ชิ้นส่วนทั้งหมดของมีด RAT ตั้งแต่ใบมีด ด้ามจับ ซองพก ผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเครื่องจักร CNC ซึ่งเป็นกระบวนการผลิต ที่ทันสมัย แม่นยำ ทำให้ผลิตมีด ออกมาได้ตามที่ ออกแบบไว้ 100% ผลจากการควบคุม คุณภาพการผลิต ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า มีดทุกเล่มของ ESEE มาพร้อมกับ lifetime การันตีให้แก่ผู้ใช้งาน โดยไม่สอบถามเหตุผล และไม่จำเป็น ต้องซื้อมีด จากผู้ขายเป็นมือแรก เพราะต่อให้คุณใช้มีดเป็นคนที่สิบ แล้วทำมีดหัก ESEE ยินดีเปลี่ยนให้ เมื่อท่านส่งมีด ไปถึงพวกเขาทันที ซึ่งเป็นจุดสำคัญ ที่แตกต่างจากมีด ที่ผลิตจากษริษัท Ontario และอีกหลายบริษัท

หลังจากหมดสัญญา การผลิตร่วมกับ Ontario Knife Co. ทั้ง Jeff และ Mike พยายามเจรจาให้ RAT Ontario หยุดผลิตมีด โดยใช้ชื่อ RAT แต่การเจรจา ไม่ประสบความสำเร็จ ผู้ใช้มีด RAT Cutlery ต่างทราบดีว่า มีดของ RAT มีคุณภาพดีกว่า RAT Ontario ในทุกๆ ด้าน แต่ปัญหาคือ ชื่อที่คล้ายกัน ทำให้ผู้ใช้หลายคน ยังคงเกิดความสับสน เป็นอย่างมาก

ด้วยเหตุนี้เอง ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปี 2010 ทั้ง Jeff และ Mike จึงตัดสินใจ เปลี่ยนชื่อจาก RAT Cutlery โดยใช้ชื่อใหม่ คือ ESEE Knive เพื่อตัดปัญหา ความสับสนให้กับผู้ใช้ ESEE มาจากคำว่า “Escuela de Supervivencia (School of Survival), Escape and Evasion” ซึ่งเป็นชื่อของ โรงเรียนสอนหลักสูตร การดำรงชีวิตในป่า ในอเมริกาใต้ ซึ่ง Jeff และ Mike ร่วมก่อตั้งขึ้น จนเป็นที่ยอมรับมานานแล้ว

ภายใต้ชื่อใหม่ ESEE ได้มีการพัฒนามีดรุ่นใหม่ ออกสู่ตลาด เช่น ESEE Junglas Machete พวกเราขอเอาใจช่วย ให้กิจการเจริญก้าวหน้า และจะคอยรีวิว ผลงานใหม่ๆ มาฝากกันครับ

Tags:

Enstrom Helicopter Corp. Wins Royal Thai Army Training Program

Thursday, February 25, 2010 – Enstrom Helicopter Corp.

Enstrom Helicopter Corporation would like to announce that they will be providing16 480B advanced turbine training helicopters for the Royal Thai Army. The 480B was selected in a competitive bidding process that included aircraft from 7 different major manufacturers. In October Enstrom hosted a delegation of officials from the Royal Thai Army led by Major General Pittaya Krachangwong, who came to Menominee to inspect Enstrom’s manufacturing facilities and fly the different models of Enstrom helicopters.

“We couldn’t be more excited to be working with the Royal Thai Army,” said Jerry Mullins, Enstrom’s President and CEO. “The 480B turbine helicopter was originally designed for military instruction, and although it has had great success in the commercial market, it’s nice to see it being recognized as a great training ship as well. The Royal Thai Army’s visit has given them the confidence to go forward with Enstrom, now and in the future.”

Along with General Pittaya, 3 other experienced Royal Thai Army pilots flew the Enstrom 480B and piston powered F28F. “The said it was almost too easy to fly,” commented David Blake of Blake & DeJong Ltd., Enstrom’s Managing Representative in Asia. “None of them have ever flown the 480B before, but they were able to take the controls and immediately felt comfortable enough to fly a number of maneuvers. This will be a great training helicopter for the Royal Thai Army.”

Beyond just training, the Royal Thai Army intends to use their new 480B’s for a number of missions. “Avionics-wise, these new 480B’s are going to be some of more advanced aircraft in the Royal Thai Army’s inventory,” said Enstrom’s Director of Sales & Marketing, Tracy Biegler. “When we explained to the Royal Thai Army firsthand some of the features and capabilities of the EFIS system and the tactical radios, it really opened their eyes. These aircraft will have the ability to do a lot more than just training, such as search and rescue, surveillance, and disaster relief. The Royal Thai Army is definitely going to utilize the flexibility built into the 480B design.”

Enstrom is represented in Asia by Blake & DeJong Ltd., and in Thailand by M-Landarch Inc. For more information on Blake & DeJong Ltd., please contact [email protected]. For more information on M-Landarch Inc, please visit http://www.m-landarch.com/.

Founded in 1959, Enstrom Helicopter Corporation manufactures a complete line of helicopters. The three-seat, piston-powered F28F and 280FX are popular training, sport, and light commercial aircraft. The larger turbine-powered 480B is available as a three-place advanced trainer and patrol aircraft, or as a three to five place executive transport. For law enforcement applications Enstrom produces a specialized variant of the 480B, known as the Guardian, and the F28F, called the Sentinel. Enstrom can be found on the Internet at http://www.enstromhelicopter.com/.

Tags: ,

EOTAC Vickers Duty Glove

ถุงมือ EOTAC Vickers รุ่น Duty Glove

หลังจากที่ ลาร์รี่ วิคเกอร์ส (Larry Vickers) และ EOTAC ร่วมกันออกแบบ ถุงมือยิงปืน Vickers Mid-Length Combat Glove ก็เริ่มมีผู้ใช้ แจ้งความต้องการ ถุงมือยิงปืนชนิดข้อสั้น และขอให้ใช้หนัง แทนการใช้ Nomex ซึ่งป้องกันเปลวไฟ ลาร์รี่และทีมงาน จึงร่วมกันคิด และพัฒนาถุงมือข้อสั้น รุ่นแรก จนออกมาเป็น ถุงมือรุ่น Vickers Duty Glove ซึ่งบริเวณฝ่ามือ ของถุงมือ รุ่น Vickers Duty Glove เขาเลือกใช้หนังแพะ ซึ่งมีคุณสมบัติ กันความร้อน และน้ำได้ดี

โครงสร้างบริเวณฝ่ามือ และข้างนิ้วมือ ถูกออกแบบให้ โค้งเข้ากับรูปมือ ของผู้สวมใส่ เพิ่มคุณสมบัติ การยึดเกาะ ให้เหมาะกับทุกภารกิจ บริเวณหลังมือ ทำจากโพลีเอสเตอร์ ที่มีความยืดตัวสูง ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น และยังเสริมคุณสมบัติ การกันน้ำและทนทาน เป็นพิเศษด้วยการเคลือบ Tricot lined, ยางยืดบริเวณข้อมือ ช่วยให้กระชับขณะสวมใส่ และยังสามารถ ปรับขนาดให้พอดี กับมือ ด้วยแถบรัด ช่วยให้กระชับ, แผ่นเสริมบริเวณสนับมือ เพิ่มความแข็งแรง ในภารกิจที่ต้อง สมบุกสมบัน นอกจากนี้ ยังเสริมชั้นหนังเป็นพิเศษ บริเวณข้อนิ้วมือ และปลายนิ้วมือ เพื่อเสริมความแข็งแรงทนทาน

Vickers Duty Glove มีเฉพาะสีดำเท่านั้น ขนาด มีให้เลือกเช่นเดียวกับ Vickers Mid-Length Combat Glove รวมถึง cadet ซึ่งเป็นความยาวนิ้ว ที่สามารถสั่งพิเศษ เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีช่วงนิ้วสั้นอีกด้วย

คุณสมบัติพิเศษ
– เสริมแถบบริเวณสนับมือเพิ่มความทนทาน
– ออกแบบให้ช่องนิ้ว โค้งตามสรีระธรรมชาติ
– มียางยืดบริเวณข้อมือ ช่วยเพิ่มความกระชับ
– แถบรัดสามารถ ปรับขนาดได้ ช่วยเพิ่มความกระชับ ตามที่ผู้ใส่ต้องการ
– เสริมชั้นหนังแกะพิเศษ ในบริเวณที่ต้องการ ความทนทาน และเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ

วัสดุ
โพลีเอสเตอร์, หนังแกะ

Tags: , ,

เรื่องราวของถุงมือ EOTAC Vickers Mid-Length Combat Gloves

Larry Vickers

เริ่มจาก การแนะนำตัว ผู้ออกแบบ ให้รู้จักกันก่อนครับ ลาร์รี่ วิคเกอร์ส (Larry Vickers) ถือเป็นหนึ่งใน ผู้มีประสบการณ์ และเชี่ยวชาญ การยิงปืน อันดับต้นๆ ของโลก และยังเป็น ครูฝึกที่มี ประสบการณ์ การทำงาน ในหน่วยรบชั้นนำ โดยเขาเริ่มต้น เข้ารับราชการทหาร ในกองทัพสหรัฐ เข้าสังกัดหน่วย ปฏิบัติการพิเศษ 1st Special Force Operation Detachment – Delta หรือที่ทั่วโลก รู้จักกันในนาม Delta Force เป็นเวลา 15 ปี จนกระทั่ง ปลดประจำการ ในปี 2004 ด้วยยศ Master Sergeant มีประสบการณ์ การทำงานร่วมกับหน่วย Delta Force ในหลายประเทศ เช่น Panama, Iraq, Somalia, Bosnia และอีกหลายประเทศ ที่ขออนุญาตไม่เปิดเผยข้อมูล

Larry Vickers in Delta Force during Desert Storm

ในขณะประจำการ ในหน่วย Delta Force ลาร์รี่ ใช้เวลาส่วนใหญ่ ไปกับการวิจัยและพัฒนา อาวุธชนิดต่างๆ ให้กับหน่วย Delta Force ซึ่งโดยเนื้องานแล้ว ภารกิจส่วนใหญ่ของ Delta Force จะถูกเก็บเป็นความลับทางราชการ แต่ลาร์รี่ก็ยังทำงานวิจัยและพัฒนา อาวุธ ในหลายๆ โครงการสำคัญ ร่วมกับบริษัทเอกชน เช่น ออกแบบ HK416 , HK417 และ HK45 / Schmidt & Bender CQB Short Dot Scope และไฟติดอาวุธอีกมากมาย เช่น Surefire X200 และ Insight M3x/M6x

นอกจากนั้น Larry ยังรับหน้าที่เป็น หัวหน้าชุดฝึกยิงปืน ของหน่วย Delta Force และเป็นที่รู้กันว่า Larry เป็นผู้เชี่ยวชาญ อันดับต้นๆ ของโลก ในการใช้ปืนสั้น รุ่น M1911 : 45 ACP

หลังจาก ปลดประจำการ Larry ยังคงทำงานวิจัย ร่วมกับบริษัท HK และอีกหลายบริษัท หนึ่งในนั้น ได้แก่ EOTAC ผู้ผลิตและออกแบบ เครื่องแต่งกาย เพื่อผู้ใช้อาวุธ โดยเฉพาะ โดยมีผลงานวิจัย และพัฒนาชิ้นแรก ในรูปของการออกแบบ ถุงมือ Nomex Flight Glove (ซึ่งเป็นถุงมือ ที่ผู้ทำการบิน นิยมใช้แพร่หลาย ทำจากผ้า Nomex สามารถป้องกันเปลวไฟลาม ไม่ลุกติดไฟ) เพื่อให้เป็นถุงมือ สำหรับใช้ ยิงปืนโดยเฉพาะ และเป็นที่นิยมใช้ อย่างแพร่หลาย ในหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ด้วยคุณสมบัติ และรูปทรง ที่กระชับ ช่วยให้สามารถ เคลื่อนไหวมือ และนิ้วได้คล่องตัว ทั้งยังทนทาน และป้องกันความร้อน และเปลวไฟได้ดี ในราคาที่ไม่สูง เมื่อเทียบกับคุณภาพ

การออกแบบ ถุงมือรุ่นใหม่ในปัจจุบัน รวมถึงถุงมือ Hard Knuckled Oakley Pilot Glove พัฒนารูปแบบ มาจากถุงมือ แข่งมอเตอร์ไซด์วิบาก ซึ่งคุณสมบัติหลัก ของถุงมือประเภทนี้ เน้นการป้องกันมือ ของผู้สวมใส่ เป็นสำคัญ ซึ่งทำให้ คุณสมบัติในการ ขยับมือและนิ้ว ทำได้ไม่สะดวกเท่าที่ควร ซึ่ง Larry กลับไปใช้แนวคิด ที่จะพัฒนา ถุงมือนักบิน (pilot glove) โดยยังคง คุณสมบัติเดิม ที่ดีไว้ และเพิ่มคุณสมบัติ ในส่วนที่จะช่วยให้ได้ถุงมือ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จนเกิดบทสรุป ที่สมบูรณ์แบบ ออกมาเป็น Vickers Combat Glove ผลิตจากวัสดุ ทนไฟลาม และทนความร้อน เช่น Dupont nomex, fire resistant rayon และ หนัง kidskin (หนังแพะ, แกะ)

อีกหนึ่งปัญหาสำคัญ ที่ถุงมือนักบิน ถูกวิจารณ์มากที่สุด คือ ความไม่กระชับ ขณะสวมใส่ Vickers Combat Glove แก้ปัญหานี้ด้วยการ ทำสายรัดถึง 2 จุด ทั้งข้อมือบน และปลายด้านล่าง ให้ผู้สวมใส่สามารถ ปรับระดับความกระชับ ให้พอดีกับ ความต้องการใช้งาน ช่วยให้ผู้สวมใส่ เคลื่อนไหวมือและนิ้ว ได้อย่างคล่องตัว ยิ่งไปกว่านั้น บริเวณสันมือของ Vickers Combat Glove เจตนาที่จะใช้ วัสดุอ่อนนุ่ม ไม่มีส่วนแข็งของ Hard Knuckles เพื่อต้องการให้นิ้วโป้ง เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระยิ่งขึ้น ทำให้ส่วนอื่นๆ ของมือไม่ถูกรั้ง ให้ขยับตาม ช่วยให้การ ควบคุมอาวุธ มีความนิ่ง และแม่นยำ ไม่เกิด แรงตึง จากบริเวณสันมือ

คุณสมบัติ ที่สำคัญ ของถุงมือยิงปืน คือ ความสมดุลย์ระหว่าง การป้องกันมือ และความกระชับ คล่องตัว ซึ่งถุงมือที่ดี ควรเลือกใช้ วัสดุที่ให้การ ปกป้องมือ จากความร้อน, เขม่าปืน ฯได้ดี แต่ไม่หนาเทอะทะ และบางกระชับ เพื่อให้นิ้วมือ ของผู้ใช้งาน เคลื่อนไหว ได้อย่างอิสระเต็มที่

ปัญหาความสั้นยาว ของนิ้วที่แตกต่างกัน เป็นเรื่องปกติของสรีระแต่ละคน ซึ่ง Vickers Combat Glove นับเป็นถุงมือยิงปืนชนิดเดียว ที่สามารถสั่งขนาดความสั้นยาวของนิ้วได้ โดยถุงมือไซส์ปกติมี ขนาดทั้งแต่ XS (5.5-6 นิ้ว) ไปจนถึง 3XL (11.5-12 นิ้ว) และ Cadet Size ซึ่งเป็นขนาดที่สั้นกว่าขนาดปกติ 0.125 นิ้ว เหมาะกับ ผู้ที่มีช่วงนิ้วสั้น สามารถสั่งได้ ในขนาด S (6.5-7 นิ้ว), M (7.5-8 นิ้ว), L (8.5-9 นิ้ว)

ลาร์รี่ วิคเกอร์ส ยังไม่ลืมเป้าหมาย ที่จะพัฒนา pilot glove ให้ดียิ่งขึ้น ขอเชิญทดสอบ และลองใส่ ด้วยตัวเอง

OVERVIEW:
ออกแบบโดยลาร์รี่ สิคเกอร์ส (Larry Vickers) อดีตเจ้าหน้าที่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ และผู้เชี่ยวชาญ ด้านอาวุธปืน ถุงมือใน Vickers Signature Series Gloves ถูกออกแบบขึ้น เพื่อเป็นถุงมือ สำหรับเจ้าหน้าที่ เพื่อใช้ปฏิบัติภารกิจ ทางยุทธวิธีอย่างแท้จริง (operator grade gear) บริเวณฝ่ามือ ผลิตจากหนังแพะ ซึ่งมีคุณสมบัติกันน้ำ ผ่านการคัดสรร วัสดุอย่างดี และการตัดเย็บ อย่างประณีต บริเวณหลังมือ และข้อมือ ทำจาก DuPont Nomex ขนาด 9 ออนซ์ หนาพิเศษ 2 ชั้น Vickers Glove ออกแบบและพัฒนา ให้มีประสิทธิภาพสูง ทนทาน และเหมาะสม กับการใช้งานจริง ซึ่งต้องการ ถุงมือที่มีประสิทธิภาพสูง และทนทาน กว่าถุงมือธรรมดาทั่วไป บริเวณข้อมือ เป็นยางยืด ทำให้ถุงมือกระชับไม่ลื่อหลุด, มีแถบรัดถึง 2 ชั้น ทำให้ผู้สวมใส่ สามารถปรับขนาด ความกระชับ ได้ดียิ่งขึ้น, เสริมวัสดุกันกระแทก เพื่อเพิ่มความทนทาน บริเวณสนับมือ ยิ่งไปกว่านั้น ยังเสริมหนังแพะ ในบริเวณ ที่เสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น แนวข้อต่อนิ้วมือ และปลายนิ้วมือ

คุณสมบัติพิเศษ
– เสริมวัสดุกันกระแทก เพิ่มความทนทาน บริเวณสนับมือ
– ออกแบบให้ ช่วงนิ้ว โค้งเข้ากับสรีระ ตามธรรมชาติ
– ยางยืดบริเวณข้อมือ ช่วยเพิ่มความกระชับ
– มีแถบรัดถึง 2 ชั้น เพื่อปรับความกระชับ ให้ดียิ่งขึ้น
– เสริมชั้นหนังเป็นพิเศษ บริเวณที่เสี่ยงต่อ การบาดเจ็บ เช่น ข้อนิ้วมือ, ปลายนิ้ว
– โครงสร้างถุงมือ ออกแบบมาให้ ทนความร้อนได้ดี

วัสดุที่ใช้ 9 oz. DuPont Nomex, 7 oz. 80% FR Rayon/20 Nomex , หนังลูกแพะ

สี Coyote Brown, OD Green, Black

ได้แล้ววันนี้ ที่ Safe House.

Tags: , ,