Safe House ร่วมสนับสนุนชุดปฏิบัติการ กองกำลังเฉพาะกิจ 980 ไทย/ดาร์ฟู สืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศซูดาน ทวีปแอฟริกา ที่สะสมเรื้อรังมานานกว่า 50 ปี จนมาสู่สงครามกลางเมืองระหว่างกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงเชื้อสายอาหรับ และชนเผ่าพื้นเมืองทางใต้ซึ่งประกอบอาชีพเลี้ยงสัตว์และการเกษตร ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ปัญหาดังกล่าวได้ลุกลามใหญ่โต จนเกิดเป็นสงครามนองเลือดระหว่าง ฝ่ายเมืองทางเหนือกับเมืองทางใต้ จนกระทั่งมีผู้บาดเจ็บล้มตายและอดอยากมากมาย

มาจนถึงปี 2005 นี่เอง สหประชาชาติได้เริ่มเข้ามามีบทบาท ในฐานะผู้รักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศซูดาน และเรียกร้องให้มีการเจรจาระหว่างสองฝ่าย ซึ่งเหตุการณ์สงบลงไม่นาน ก่อนที่จะมีการประกาศเรื่องต้องการแยกตัวเป็นเอกราชจากกันในปี 2011 นี่เอง การประกาศแยกตัวนี้ อาจเป็นชนวนก่อให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นอีก ในอนาคตอันใกล้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สถานการณ์ในปัจจุบัน กลุ่มกบฏที่มีความเข้มแข็งที่สุดนั้น มีการนำเข้าอาวุธหนักต่างๆ เช่น RPG7 หรือปืนกลหนักขนาด .50 BMG และปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยาน แบบ ZU-23 ขนาด 23 มม. โจมตีแบบกองโจร

อบรมการช่วยชีวิตให้กับกองกำลัง 980

ประเทศไทย ในฐานะสมาชิกขององค์การณ์สหประชาชาติ และกองทัพไทยภายใต้กองกำลัง UNAMID (United Nation African Union Mission in Darfu) จึงถูกร้องขอให้ส่งกำลังเข้าไปปฎิบัติหน้าที่รักษาสันติภาพ และร่วมฟื้นฟูประเทศซูดาน โดยมีกำลังจากทั้งสามเหล่าทัพ ประกอบไปด้วย ทหารช่าง, แพทย์ทหาร, พยาบาล และหมวดระวังป้องกันฯ

ซึ่งหมวดระวังป้องกัน (มว.รวป.ฯ กล.980 ไทย/ดาร์ฟู) นี่เอง มีจำนวนเจ้าหน้าที่ไม่ถึง 30 นาย ประกอบด้วยหมวดเคลื่อนที่เร็วพร้อมอาวุธหนัก รับหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของกองกำลัง ที่เดินทางไปชุดแรกทั้งหมดกว่า 800 ชีวิต ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดการบาดเจ็บจากการปะทะ หรือถูกซุ่มโจมตีได้มากที่สุด

ภาพการฝึกใช้งานอุปกรณ์เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ

จากข่าวคราวที่กองกำลังเพื่อสันติภาพ เคยถูกโจมตีและลอบสังหารอย่างโหดเหี้ยม ทำให้ Safe House เห็นความสำคัญและได้นำคณะวิทยากรเข้าสนับสนุน อบรมการช่วยชีวิตในสภาวการณ์รบ และมอบวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์เชิงยุทธวิธี, อุปกรณ์ห้ามเลือดภาคสนาม, แว่นครอบตานิรภัย Revision Desert Locust และเสื้อทับเกราะติดช่วงลำตัว Chest Rig เพื่อพกพาอาวุธและอุปกรณ์ต่างๆ จำนวน 25 ชุด ให้กับ มว.รวป.ฯ เพื่อบรรเทาความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บและสูญเสีย ซึ่งเราภาวนาไม่ให้เกิดขึ้น

อุปกรณ์จาก Safe House

ในส่วนของแว่นครอบตา Revision Desert Locust Goggle ของแท้จากผู้ผลิต ก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ป้องกันภัย ที่เราได้สนับสนุนให้หมวดระวังป้องกันไว้บางส่วน ถึงแม้จะทดแทนแว่นครอบตา Revision Desert Locust ของปลอม ที่กำลังพลส่วนมากได้รับแจก(สีทรายเลนส์ดำ) จากการจัดหาที่ผิดพลาดไม่ได้ทั้งหมด แต่เราก็ภูมิใจ ที่ได้มอบของแท้คุณภาพดี เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่

ในส่วนของมาตรฐานการป้องกันของแว่นครอบตา Revision ของแท้นั่น เป็นมาตรฐานทางทหาร ที่ทดสอบโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ MIL-V-43511C clause 3.5.10; MILPRF 31013 clause 3.5.1.1; MIL-STD-662F ให้ความทนทานและปลอดภัยเหนือกว่ามาตรฐาน ANSI

การทดสอบตามมาตรฐาน ANSI Z87.1 จะใช้ลูกเหล็ก ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6.35 มม. ความเร็วปะทะที่ 45.7 เมตรต่อวินาที เข้าสู่เลนส์โดยตรง ซึ่งผลการทดสอบ Revision Desert Locust เลนส์ รับแรงปะทะได้สูงถึง 221 เมตรต่อวินาที (ใกล้เคียงความเร็วของกระสุนปืนลูกซองขนาด 12 เกจ) เป็นค่าความทนทานที่เกินกว่ามาตรฐาน ANSI Z87.1 ถึง 6 เท่า ใช้ในการป้องกันสำหรับงานเชิงยุทธวิธี เช่น สะเก็ดระเบิด และสะเก็ดกระสุน ,เศษกระจก จากการปะทะในระยะประชิด และการถูกซุ่มโจมตีด้วยระเบิดแสวงเครื่องย่อมดีกว่าแว่นตากันฝุ่น กันลม กันสะเก็ด หรือแว่นตาเซฟตี้ทั่วไป ที่ไม่สามารถป้องกันแรงปะทะจากวัตถุที่มีความเร็วสูง ระดับสะเก็ดระเบิดได้อย่างแน่นอน

เจ้าหน้าที่สวม Revision Desert Locust ก่อนเดินทาง

อนึ่งมาตรฐานแว่นกันสะเก็ดทั่วไป ที่กรมพลาธิการกองทัพบก ได้กำหนดคุณลักษณะเฉพาะ ซึ่งระบุแต่ลักษณะภายนอกเท่านั้น ไม่ได้ระบุมาตรฐานความทนทานของเลนส์ ต่อการรับแรงปะทะจากสะเก็ดเชิงยุทธวิธี ซึ่งเป็นการป้องกันทางกายภาพ ตามเกณฑ์มาตรฐานสากลของแว่นตาทางทหารโดยเฉพาะ (MIL-V-43511C และ MIL-PRF-31013) ซึ่งจะทำให้แว่นตาสำหรับทหาร ต่างจากแว่นตาทางการกีฬา หรือ แว่นตาที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม ถึงแม้จะมีราคาที่ต่างกันมาก แต่ต้องยอมรับว่าเป็นการลงทุนเพื่อชีวิตที่คุ้มค่า เพราะในปัจจุบันยังไม่มีเทคโนโลยีใดๆ ที่จะมาทดแทนดวงตาของเราได้ หากต้องสูญเสียไป ดังนั้นการจัดสรรแว่นตานิรภัยที่เหมาะสมกับภารกิจ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง

ท่านทั้งหลายได้เดินทางไปแล้วในช่วงต้นเดือน ธ.ค.2553 จนถึงปัจจุบันเรายังไม่ได้รับการติดต่อกลับ เนื่องจากอุปสรรคหลายด้านในพื้นที่ทุรกันดาร และการไปตั้งหน่วยเป็นครั้งแรก ก็เป็นเรื่องที่ยากลำบาก หากมีข่าวสารใดๆส่งมาถึง เราจะนำเรื่องราวของท่านเหล่านี้ มาเล่าสู่กันฟังต่อไปครับ

ท้ายนี้ สิ่งอุปกรณ์ใดๆ ที่ Safe House ได้สนับสนุนไปนั่น ขอให้ท่านได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ และภาวนาให้อุปกรณ์ห้ามเลือดภาคสนามที่ท่านได้รับไป อย่าให้ท่านมีโอกาสได้ใช้ และขออาราธนาให้พี่น้องทหารไทยทุกท่าน เดินทางกลับสู่ประเทศไทย และครอบครัวที่ท่านรักโดยปลอดภัย