fbpx

Posts Tagged Mcnett

Wave bands คลายคลื่น คืนสมดุล

สำหรับการเดินทางที่ยาวนาน ย่อมเกิดความอ่อนล้า รวมถึงปัจจัยแวดล้อมต่างๆ บางครั้งอาจทำให้เราเกิดอาการไม่สบาย, วิงเวียน, คลื่นไส้ อาเจียน อาการที่มักจะเกิดในเวลาที่อยู่บนรถหรือเรือ เราเรียกกันทั่วไปว่าเมารถเมาเรือนั่นเองครับ ผมมีอุปกรณ์ง่ายๆที่อาจเป็นตัวช่วยบรรเทาปัญหาจากการเดินทางให้คลายลงได้ แบบไม่ยุ่งยาก อุปกรณ์ที่ว่านี้คือ Wave Bands (เวฟ-แบน) หรือสายรัดข้อมือแก้อาการวิงเวียนต่างๆ เช่น คลื่นเหียน, คลื่นไส้ จากอาการเมารถเมาเรือ โดยการใช้งานนั้นง่ายมากครับ แค่รัดสายรัดไว้ที่แขนทั้งสองข้าง (มีขั้นตอนการรัดให้ถูกจุด อยู่ด้านหลังซองครับ) เพียงรัดเอาไว้ ก็จะช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้, เวียนหัวลงได้

หลักการของสายรัดข้อมือนี้ คล้ายกับการกดจุดนั่นเองครับ โดยผู้ที่สวมใส่ Wave Bands ส่วนมากจากที่เคยคลื่นไส้, อาเจียรในระหว่างเดินทาง ก็กลับบรรเทาอาการเหล่านี้ หรือในบางรายก็ไม่เกิดอาการเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสายรัดนี่เอง ก็เป็นแค่เครื่องช่วยเท่านั้นครับ ผมเคยลองรัดสายรัดเอาไว้ก่อนจะขึ้นเรือข้ามเกาะ ซึ่งปกติผมมักจะเวียนหัวจากแรงเหวี่ยงของคลื่นที่ปะทะเรือเป็นประจำครับ บางทีต้องกินยาแก้เมาไปก่อนเลยก็บ่อย แต่พอใช้ Wave Bands แล้ว  ได้ผลน่าแปลกใจที่พอใส่ ผมกลับไม่เกิดอาการเมาเรืออย่างที่กังวล ในความเห็นของผมสายรัด Wave Bands ที่อยู่ในกล่องเล็กๆบางๆ พกพาง่าย หากใช้เป็นทางเลือกสำรองแล้วได้ผลดี ก็ถือว่าให้ประโยชน์ที่คุ้มค่าสำหรับการเดินทางแล้วล่ะครับ

Wave Bands มีจำหน่ายแล้วที่ Safe House ครับ

การหาจุดกดที่ถูกต้อง

ขั้นตอนการใช้งานสายรัดที่ถูกต้อง

1. เริ่มจากรัดสายรัดไว้ที่เหนือข้อมือ เพื่อเตรียมหาจุดที่ควรวางปุ่มสีขาวในตำแหน่งที่ถูกต้อง

2. จากนั้นใช้นิ้วมืออีกข้าง คือ นิ้วชี้. นิ้วกลางและนิ้วนาง ทั้ง 3 นิ้ววางทาบไปกับข้อมือ (ตามรูป) โดยจุดเริ่มนั้นให้นิ้วนางชิดกับข้อมือพอดีนะครับ

3. จุดที่ถูกต้องจะอยู่ติดกับนิ้วชี้พอดีครับ โดยให้อยู่กึ่งกลางระหว่างเส้นเอ็นของแขน เมื่อได้จุดแล้วเลื่อนสายรัดมาโดยให้ปุ่มสีขาว กดอยู่ตรงจุดพอดี จึงปล่อยสายรัดไว้ที่ตำแหน่งนี้

สวมสายรัดไว้ทั้งสองข้าง เพียงขั้นตอนง่ายๆ เท่านี้ ก็ใช้งานสายรัด Wave bands แก้อาการวิงเวียน ได้เรียบร้อยครับ


Tags: , , , , , , , , , ,

ซิปลื่นสะอาด ด้วย Zip Tech™

     ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ดูแลรักษาซิป ซึ่งเป็นอุปกรณ์เล็กๆที่ความสำคัญไม่เล็ก ที่เราไม่ควรมองข้ามครับ Zip Tech™(ซิป-เทค) แท่งทำความสะอาดซิปจาก McNett ช่วยคุณได้ครับ สำหรับอุปกรณ์ที่มีซิปประกอบ เช่น กระเป๋าต่างๆ, เครื่องแบบ, ชุดดำน้ำ (Wetsuits), เต้นท์ หรือแม้แต่รองเท้าบางรุ่น ที่มีซิปด้านข้างหรือด้านหลัง เพื่อหล่อลื่นให้ง่ายในการสวมใส่ ปัญหาเกี่ยวกับซิปที่เรามักพบเจอบ่อยๆไม่ว่าจะเป็น ซิปติดขัด, รูดซิปไม่ได้จากสิ่งสกปรก, สนิมเกาะซิป (สำหรับซิปโลหะ) ฯ แนะนำให้ลองใช้ Zip Tech™ แก้ไขปัญหาดูครับ

เจ้า Zip Tech™ แท่งทำความสะอาดซิปตัวนี้ละครับ ช่วยให้การดูแลรักษาซิปทั้งแบบพลาสติกและโลหะ ทำได้ง่ายๆเพียงทำความสะอาดซิป แล้วนำ Zip Tech™ ถูไปมาบนฟันซิปด้านนอก แล้วลองรูดซิปขึ้น-ลง คุณสมบัติของ Zip Tech™ จะช่วยเคลือบ, หล่อลื่นซิปและป้องกันสิ่งสกปรก, ป้องกันรังสี UV สำหรับซิปไนลอนและซิปพลาสติก, ป้องกันคลอรีน, เกลือและคราบสกปรกสำหรับซิปสำหรับอุปกรณ์ทางน้ำ เช่น เสื้อชูชีพ, เป้ฯ Zip Tech™ ช่วยรักษาสภาพซิปให้อายุการใช้งานอุปกรณ์ยาวนานยิ่งขึ้น ข้อดีคือไม่มีส่วนผสมของซิลิโคน หรือฟาราฟิน และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมครับ สอบถามอุปกรณ์ดูแลทำความสะอาดของใช้สำหรับเดินทาง McNett Gear Aid ได้ทุกวันที่ Safe House ครับ

Tags: , , , , , , , ,

Freesole ติดพื้น คืนชีวิตใหม่ให้รองเท้าคุณ

เข้าหน้าฝนแล้วนะครับ สำหรับท่านที่ติดตามข่าวสารจาก Safe House Lab อยู่เป็นประจำ คงจะจำเรื่องการซ่อมบำรุงรองเท้าคู่โปรดใน “Aquaseal กาวคืนชีพ รองเท้าคู่โปรด” ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นบทความที่มีประโยชน์สำหรับหลายๆท่าน โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน กับการสึกหรอของรองเท้ามักจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเราพูดมักจะพูดถึงรองเท้าของคุณผู้ชายกันซะมาก ผมจึงขอทำรีวิวการซ่อมรองเท้าสำหรับคุณผู้หญิงกันบ้างครับ

คุณผู้หญิงก็มีรองเท้า ที่พื้นรองเท้าชำรุดหรือหลุดร่อนไม่ว่าจะเล็กน้อย หรือลอกออกไปทั้งแผ่นก็ตามครับ ตัวอย่างที่ผมเห็นบ่อยและหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ พื้นรองเท้าสึกและเปิดเป็นถั่วปากอ้า หรือแม้แต่คุณผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มีรองเท้าหลายคู่ สำหรับใส่ไปงานหลายๆโอกาส เมื่อใช้งานรองเท้าไปซักระยะหนึ่ง แล้วหยุดพักไปใช้คู่อื่นอีกระยะหนึ่ง เมื่อกลับมาใช้งานรองเท้าคู่เดิม จะทำให้ความยืดหยุ่นของกาวเสื่อมลง พื้นรองเท้าอาจเสื่อมสภาพไปได้ครับ

โดยการชำรุดนั่นจะเห็นได้จากส่วนหัวหรือส้นรองเท้าจะเปิดออก ปัญหานี้แก้ได้ง่ายๆครับ ในซีรี่ส์ GEAR AID จาก Mcnett จะมีกาว Freesole ซึ่งเป็นกาวสำหรับการซ่อมรองเท้าโดยเฉพาะ ด้วยความที่ตัวกาวมีลักษณะเป็นเจลใส เนื้อเจลจะค่อนข้างข้น และเมื่อแห้งแล้วจะมีลักษณะแข็งเป็นคล้ายๆ ยางหรือซิลิโคน มีความยืดหยุ่นและกันน้ำ สีใสออกขาวขุ่นเล็กน้อยครับ เป็นกาวสูตรยูรีเทนซึ่งใช้กับอุปกรณ์ที่เป็นยาง, ใยสังเคราะห์ เช่น โพลีเอสเตอร์, ไฟเบอร์กล๊าส, โพลียูรีเทน ตัวกาวออกแบบมาเพื่อซ่อมแซม ฟื้นฟูสภาพของรองเท้าทุกประเภท กาว Freesole นั้นเหมาะกับการซ่อมแซมพื้นรองเท้า หรืออุปกรณ์ที่ต้องมีการใช้รับน้ำหนัก เพื่อความทนทานครับ

อุปกรณ์ที่ใช้ในการซ่อมรองเท้า

ขั้นตอนการซ่อมแซมรองเท้า เริ่มจากการเตรียมอุปกรณ์ก่อนครับ ผมเช็ดฝุ่น, ทรายออกแล้ว จึงมาเตรียมอุปกรณ์อื่นๆที่ควรมีดังนี้ครับ

– กาวซ่อมรองเท้า Freesole จำนวนที่เหมาะสม นั้นขึ้นอยู่กับพื้นที่ในการซ่อมแซมครับ

– แอลกอฮอล์ สำหรับทำความสะอาดพื้นผิว และผ้าสำหรับเช็ดทำความสะอาด

– ขวดน้ำขนาดพอดีกับรองเท้า ใส่น้ำให้เต็มครับ

– เทปกาว 1 ม้วน

– กิ่งไม้หรือเป็นไม้ไอศครีมก็ได้ครับ เอามาใช้เพื่อเกลี่ยกาวให้ทั่วครับ

 จะเห็นว่าอุปกรณ์ง่ายๆ ทุกคนสามารถทำเองได้ไม่ยากเลยครับ

 

ทำความสะอาดด้วยแอลกอฮอลล์ให้ทั่วครับ

2.สำรวจดูจุดที่ต้องการจะซ่อมก่อนครับ ในกรณีตัวอย่าง รองเท้าคู่นี้ตอนแรก พื้นรองเท้าตรงส่วนส้นรองเท้าเปิดประมาณ 50% แต่เพื่อความแข็งแรงหลังจากซ่อมแล้วจะได้ใช้งานได้อีกยาวๆ ผมจึงจัดการลอกพื้นออกมาทั้งแผ่น เพื่อซ่อมแซมให้ทนทานอย่างดีไปเลยครับ

3.ขั้นตอนต่อไปคือทำความสะอาดครับ สำหรับขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะหากคุณไม่ทำความสะอาดให้เรียบร้อย เมื่อติดกาวไปแล้ว หากมีเศษฝุ่นจับอยู่ อาจทำให้กาวไม่สามารถยึดเกาะกับวัสดุได้ดี จนถึงขั้นหลุดลอกออกมาได้อีกนะครับ ดังนั้นในขั้นตอนนี้ผมแนะนำให้ปัดสิ่งสกปรกออก แล้วใช้แอลกอฮอล์เช็ดล้างให้ทั่ว เพื่อขจัดคราบต่างๆ และคราบกาวยางของเก่าบนพื้นผิวให้หมดก่อน

4.ใช้ Freesole ทาลงบนพื้นผิวให้ทั่ว โดยเฉพาะส่วนขอบรอบๆ เกลี่ยด้วยไม้ไอศรีมให้ทั่วและสม่ำเสมอครับ

 

 

ใช้ขวดน้ำกดเพื่อให้กาวสนิทกับพื้นรองเท้า

5.ติดรองเท้ากับพื้นรองเท้าเข้าหากันให้แนบสนิท จากนั้นใช้เทปกาวหรือเชือก รัดบริเวณที่ซ่อมแซม เพื่อเพิ่มแรงกดเฉพาะจุด ระวังเรื่องวัสดุที่ใช้ทำรองเท้ากันนิดนึงครับ เช่น รองเท้ากำมะหยี่หรือหนังแก้ว เพราะถ้าคุณใช้เทปกาวพันเข้าไปแล้ว ต้องมั่นใจว่าเมื่อลอกเทปออก จะไม่เป็นรอยกับผิวของรองเท้า หรือเลือกเทปกาวที่ลอกออกง่ายไม่ทิ้งคราบครับ

เพื่อให้มั่นใจว่าพื้นรองเท้าติดแน่นดี ผมใช้ขวดน้ำวางไว้ภายใน ตรงบริเวณส้นรองเท้า เพื่อดันให้พื้นรองเท้าด้านในติดแน่นกับกาว ช่วยให้พื้นผิวแนบสนิทไม่เกิดช่องว่างระหว่างรองเท้ากับพื้นรองเท้า ควรตกแต่งบริเวณขอบรอบๆให้ดี เพราะเมื่อกดรองเท้าแนบกับพื้นรองเท้าแล้ว กาวส่วนที่เหลือจะไหลออกมาด้านข้าง ถ้าเราไม่เช็ดออก เมื่อกาวแห้งจะเป็นก้อนคล้ายยางติดอยู่ดูไม่สวยงามครับ

6.ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 24 ชั่วโมง ตรวจสอบงานเมื่อกาวแห้งแล้วอีกครั้งครับ อย่าแกะออกดูถ้ายังไม่แห้งสนิทนะครับ

ง่ายๆแค่นี่เองครับ สำหรับคุณสุภาพสตรีที่มีรองเท้าคู่โปรดหลายคู่ ที่ยังรอการฟื้นคืนชีพมาใช้งานได้ใหม่อยู่ล่ะก็ ลองใช้กาวซ่อมรองเท้า Freesole ดูครับ แล้วหน้าฝนหรือหน้าไหนๆ รองเท้าคุณก็กลับมาลุยไปกับคุณได้ใหม่อีกครั้งครับ

Tags: , , , , ,

สบู่เหลว Waterless Wash สะอาดได้ โดยไม่ใช้น้ำ

ในทุกการเดินทาง เราต้องเจอกับฝุ่น ทราย และสิ่งสกปรกรอบตัวอยู่เสมอ ซึ่งถ้าสามารถชำระล้างร่างกาย ให้สะอาดได้ทันที คงจะดีไม่น้อย ผมเคยรีวิว Waterless Shampoo แชมพูประหยัดน้ำ ให้ทราบกันไปแล้ว ตอนนี้ Waterless Shampoo เปลี่ยนขนาดให้พกพาได้ง่ายขึ้นครับ โดยที่ยังคงความเป็นน้ำยาทำความสะอาดร่างกาย ที่ไม่ต้องใช้น้ำล้างออกในชื่อ “Waterless Wash” ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงขนาด ให้อยู่ในขวดที่มีขนาดเล็กลง 90 มิลลิลิตร เพื่อสะดวกในการพกพาไปใช้ในกิจวัตรประจำวันของเราได้ง่ายขึ้น โดย Waterless Wash นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ในชุดของ OUT GO ชุดทำความสะอาดร่างกาย ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าขนาดเหมาะ สำหรับการเดินทาง ที่เคยนำเสนอไปแล้ว

ขนาดของขวดเมื่อเทียบกับปากกา

โดยในส่วนของ Waterless Wash นั้น ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในเวลาที่เราออกไปข้างนอกในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง, เดินป่า, ปั่นจักรยาน, ท่องเที่ยว หรือกิจกรรมกีฬาต่างๆ แม้แต่ในสถานที่ ที่ไม่มีน้ำ หรือมีน้ำน้อย เราก็สามารถใช้ Waterless Wash ในการล้างมือ ล้างหน้า อาบน้ำ แม้กระทั่งสระผมก็สามารถทำได้ โดยไม่ต้องใช้น้ำเลยครับ

กรณีที่นำ Waterless Wash ไปสระผมนั้น ผมแนะนำให้ทำผมให้เปียกซักเล็กน้อยพอหมาดๆ ก่อนการใช้ Waterless Wash เพราะจะทำให้น้ำยา แทรกซึมไปได้เร็วยิ่งขึ้น แต่เราก็ยังประหยัดน้ำมากกว่าการสระผมปกติครับ เพราะไม่จำเป็นต้องล้างออก

จากการลองล้างมือด้วย Waterless Wash แล้ว เมื่อใช้จะรู้สึกลื่นๆที่มือ เหมือนเราพึ่งล้างมือหรืออาบน้ำมาใหม่ๆ แต่ตัวน้ำยาจะไม่มีกลิ่นนะครับ เวลาใช้ก็รู็สึกเย็นๆ ลื่นๆ และจะแห้งไวมาก ถูมือเพียงไม่กี่ครั้งก็แห้งสนิท แต่ให้ความรู้สึกว่ามือนิ่มๆ รู้สึกว่ามือสะอาดดีจริงๆครับ

หากคุณเป็นคนที่รักกิจกรรมลุยๆ ผมแนะนำให้มี OUT GO Waterless Wash ขนาดกะทัดรัด 1.5 x 4.25 นิ้ว ติดตัวไว้ใช้เพื่อรักษาสุขอนามัย ให้สะอาดทุกที่ทุกเวลาที่คุณต้องการ แต่ถึงแม้จะเป็นสูตรอ่อนโยน ก็ควรหลีกเลี่ยงไม่ใช้กับดวงตา ถ้าหากเข้าตาควรใช้น้ำสะอาดล้างออก แต่ถ้ายังระคายเคืองอยู่ แนะนำให้พบแพทย์ครับ สนใจผลิตภัณฑ์เพื่อการเดินทาง และดูแลคุณได้ทุกที่ ลองแวะมาที่ Safe House ได้ทุกวันครับ

สำหรับสินค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตัวอื่นๆ ผมจะมาแนะนำในโอกาสต่อไปครับ ขอให้ทุกท่านที่กำลังเดินทาง ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยครับ

Tags: , ,

Camo Form ผ้าพรางคู่ใจสไนเปอร์ “Jack Reacher”

ผมมีหนังทริลเลอร์แนวสืบสวนเรื่องใหม่ ที่นำแสดงโดย ทอม ครูซ เรื่อง Jack Reacher ซึ่งในบางช็อตของหนังเรื่องนี้ จะเห็นการพรางปืนด้วย Camo Form ผ้ายืดลายพราง เป็นการอำพรางอุปกรณ์ ใช้ในการพรางตัว หรือพรางสิ่งของ ให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม เพื่อให้ยากต่อการสังเกตเห็น ใน “Jack Reacher” นั้น Camo Form ถูกนำมาใช้โดยอดีตทหารพลซุ่มยิง (Sniper) แสดงโดย Jame Barr (Joseph Sikora) เนื้อหาของหนังมาจากชีวิตจริงของทหารพลซุ่มยิงสหรัฐฯ โดยที่พลซุ่มยิงจะต้องมีแถบผ้าพันลายพราง  Camo Form ถึง 25 แบบในทุกชุดอุปกรณ์ติดตัว เพื่อการใช้งานในการพรางปืนในการปฎิบัติหน้าที่ด้วย

หลายๆ ท่านที่เคยดูหนัง  “Jack Reacher” มาแล้ว คงได้เห็นในหลายๆ ฉากที่มีการใช้งานผ้าพันลายพราง Camo Form ร่วมกับปืนสไนเปอร์ ส่วนท่านใดที่ยังไม่ได้ดู ก็ลองติดตามดูได้ครับ เป็นหนังทริลเลอร์แนวสืบสวน ที่ดัดแปลงมาจากนิยายของ Lee Child ชื่อว่า One Shot ซึ่งตัวหนังมีบทหักเหลี่ยมเฉือนคมได้ดีทีเดียวครับ แต่คอหนัง Action หลายๆท่านอาจจะผิดหวังบ้างเล็กน้อย เพราะหนังไม่ได้เน้นฉาก Action เท่าไหร่นัก แต่เน้นไปที่บทที่มีปมให้เราได้คิดตามตลอด ว่าใครคือผู้ร้ายและทำไปเพื่ออะไร ได้ลุ้นจนจบเรื่องกันเลยทีเดียวครับ

Gerald Craft ผู้อำนวยการการตลาดของ McNett เผยว่า “Camo Form ให้มากกว่าเพียงแค่พรางตัวหรือซ่อนตัว เท่าที่เห็นใน ‘Jack Reacher’ Camo Form ยังเป็นอุปกรณ์ที่ดีสำหรับการเพิ่มการยึดเกาะ หรือการปรับเปลี่ยนให้อาวุธหรืออุปกรณ์ต่างๆ” จากคำกล่าวข้างต้น เราจะเห็นประโยชน์ของแถบผ้าพันลายพรางได้มากขึ้น ในภาพเราจะเห็นการใช้ Camo Form เพื่อรัดผ้ากับปลายกระบอกปืนเข้าด้วยกัน

ในส่วนของผลิตภัณฑ์นั้น ผมเคยแนะนำข้อมูล แถบผ้าพันลายพราง Camo Form ไปแล้วใน “Camo Form ผ้าพันลายพราง อำพรางอย่างไม่ปิดบัง” และนอกเหนือจากการซ่อนหรือพรางอุปกรณ์ Camo Form ยังสามารถปกป้องอุปกรณ์ของคุณจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากรอยขีดข่วน เป็นแถบผ้าห่ออำพรางแบบเดียว ที่จะไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะ แตกต่างจากเทปอำพรางแบบอื่นๆ ดังนั้นเมื่อมันเริ่มสกปรก คุณก็สามารถถอดออกมาซักล้างและนำกลับมาใช้พันได้ใหม่ครับ

นอกจากนี้ยังให้การปกป้องและลดแสงจ้า, แสงสะท้อน และเป็นฉนวนปกป้องมือ จากความร้อนและความเย็น Camo Form 1 ม้วน ความยาว 3.65 เมตร (4 หลา) เพียงพอสำหรับพันปืน Rifle 1 กระบอก พร้อมแม็กกาซีน และกริปมือ หรืออาจเป็นอุปกรณ์ในการทำงานต่างๆของคุณ เช่น ขาตั้งกล้อง, ไฟฉาย, โครงจักรยาน, มอเตอร์ไซด์ แม้กระทั่งใช้พันด้ามมีดหรือด้ามขวาน เพื่อเพิ่มความกระชับไม่ลื่นในการใช้งานหนักๆ หรือแม้แต่หากข้อเท้าพลิกในการเดินทาง ก็ยังสามารถใช้เป็นผ้าพันข้อเท้า หรือใช้งานคู่กับเฝือกได้อีกด้วยครับ

Camo Form มีสีให้เลือกใช้มากหลายชนิด ซึ่งโดยหลักๆแล้ว ผ้าพันลายพรางจะเป็นลายที่คล้ายกับสภาพแวดล้อม, ต้นไม้ใบไม้ต่างๆครับ ในตัวผลิตภัณฑ์ตอนนี้มีสีให้เลือกถึง 14 สีด้วยกัน

1.Realtree AP  (ลายใหม่)                   2.Realtree Max-4 (ลายใหม่)                   3.Camo form Snow Pattern             4.Camo form Black attern                     5.Camo form Desert Generic Pattern (Multicam)                                           6.Mossy Oak – Break up                  7.Mossy Oak – Obsession                      8.Mossy Oak – Brush                       9.Mossy Oak – New Shadow Grass      10.Universal Camouflage Pattern  11.Digital Woodland Pattern                  12.Digital Desert Pattern                 13.Standard Woodland Pattern        14.Standard Desert Pattern

ในส่วนของทำไมต้องเป็นลายพรางแบบต่างๆ และลายไหนถูกออกแบบมาให้เหมาะใช้งานอะไรนั้น ผมจะนำข้อมูลมาให้ทราบในบทความหน้าครับ

สั่งซื้อและเป็นเจ้าของ Camo Form ทุกสีที่คุณชื่นชอบได้แแล้ววันนี้ที่ Safe House ครับ

Tags: , , , , ,

Mcnett ReviveX ซีรี่ย์ล้างคราบและเคลือบกันน้ำ

ผ่านเทศกาลหยุดยาวกันมา หลายท่านคงมีโอกาสได้ใช้อุปกรณ์เดินทางคู่ใจยอดฮิตอย่าง เสื้อแจ็คเก็ต, ถุงนอน, ฟลายชีท, กระเป๋าผ่าร่ม กันบ้างนะครับ กลับจากทริปมา ก็ถึงคราวของการดูแลและทำความสะอาดกันบ้าง ผมมีวิธีเพิ่มประสิทธิภาพและรักษาคุณสมบัติการกันน้ำ ของอุปกรณ์เดินทางให้คงอยู่ตลอดฤดูการท่องเที่ยว ด้วยการใช้น้ำยาทำความสะอาดและกันน้ำในซีรี่ย์ ReviveX ของ McNett มาแนะนำครับ

สำหรับการทำความสะอาดถุงนอน ในขั้นแรกนั้นผมแนะนำให้หาขวดสเปรย์ฉีดพรมน้ำสะอาดให้ทั่วพื้นผิวด้านนอกของถุงนอนให้เปียกพอสมควร จากนั้นในขั้นตอนที่สองเราจะใช้น้ำยา ReviveX Spray Water Repellent น้ำยาช่วยเคลือบให้พื้นผิวกันน้ำ ฉีดไปที่พื้นผิวด้านนอกของถุงนอน โดยเฉพาะส่วนบริเวณเท้า ที่ต้องฉีดให้ทั่วถึงเป็นพิเศษเพราะเป็นจุดสำคัญที่ถุงนอนม้วนติดกัน ทำให้อาจเกิดการรั่วซึมได้ง่าย จากนั้นในขั้นตอนสุดท้าย คือการนำเข้าอบแห้งในเครื่องอบผ้า แนะนำให้เป็นเครื่องอบผ้าที่มีพื้นที่เพียงพอ ให้ถุงนอนสามารถกลิ้งไปมาได้อย่างอิสระ และเทคนิคที่ช่วยให้เกิดความทั่วถึงในการอบแห้ง แนะนำให้ใส่ลูกเทนนิส ที่ทำความสะอาดแล้ว ลงไป 3-4 ลูก กระจายในจุดต่างๆ (ตามภาพ) เพื่อที่เวลาปั่นแห้ง ถุงนอนจะไม่ห่อตัวเป็นก้อน เมื่อถุงนอนแผ่ออกจะทำให้พื้นผิวได้รับความร้อนที่ทั่วถึง ที่สำคัญไม่ควรใช้เครื่องอบแห้งขนาดเล็ก เพราะนอกจากไม่มีพื้นที่ให้ถุงนอนกลิ้งได้อย่างอิสระแล้ว หากเราปรับความร้อนไว้สูงเกินไป ก็จะเป็นการทำลายพื้นผิวของวัสดุที่ใช้ทำถุงนอนด้วย

การพองตัวของเส้นใยก่อน และหลังการซัก

เมื่อเราใช้น้ำยาเคลือบเพิ่มประสิทธิภาพการปกป้องกันน้ำที่พื้นผิวด้านนอกแล้ว ต่อมาเราจะทำการปรับสภาพถุงนอน โดยทำความสะอาดจากด้านในกันบ้าง เพื่อคืนความอบอุ่นเวลาใช้งาน ในส่วนที่สำคัญของถุงนอนจริงๆแล้ว คือส่วนที่เป็นใยสังเคราะห์ที่ทำให้อบอุ่นและนุ่มสบาย ซึ่งเป็นฉนวนตาข่ายที่หุ้มอยู่ด้านใน (Loft) นั่นเองครับ ดังนั้นเราควรจะทำความสะอาดถุงนอนเมื่อมีสิ่งสกปรกเข้าไปถึงส่วนด้านในของถุงนอน ผู้ผลิตส่วนใหญ่แนะนำให้ซักถุงนอนของคุณ หลังจากการใช้งานแล้วประมาณ 20 ครั้ง โดยทั่วไปถ้ามันสกปรก สิ่งสกปรกจะทำให้ Loft สูญเสียความอบอุ่นและความนุ่ม หรือเกิดกลิ่น ควรทำการซักด้วยมือหรือเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ ที่เป็นแบบฝาเปิดด้านหน้า โดยใช้ ReviveX® Synthetic Fabric Cleaner หรือ ReviveX® Down Cleaner ® ตากให้แห้ง โดยปลดซิบออกและเกี่ยวกับราวตากผ้าครับ

ขั้นตอนในการซักถุงนอน ควรเลือกร้านซักผ้าที่มีเครื่องซัก-อบผ้า แบบเปิดด้านหน้าและเป็นเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ 

ขั้นตอนที่ 1 :
เพิ่ม ReviveX ®Down Cleaner ลงไปในเครื่องซักผ้าก่อนเลยครับ

ขั้นตอนที่ 2:
รูดซิปปิด และดึงถุงนอนออกจากถุงใส่ จากนั้นใส่เข้าไปในเครื่องซักผ้า เพื่อเป็นการเก็บ Loft (ใยสังเคราะห์ด้านใน) หากถุงนอนของคุณ มีถุงที่มีฉนวนกันน้ำหรือช่องระบายอากาศ ควรจะกลับด้านในออกมา จากนั้นใช้น้ำอุ่น และเลือกระดับการปั่นแบบเบา เพื่อป้องกันการฉีกขาดของวัสดุ ก่อนที่จะทำการอบแห้ง ควรสั่งเครื่องให้ทำการหมุนซักรอบ เพื่อระบายน้ำส่วนเกินออก

ขั้นตอนที่ 3:
แขวนถุงนอนที่เปียกและฉีดสเปรย์ ReviveX Spray-On Water Repellent ไปที่พื้นผิวด้านนอกของถุงนอน แล้วจึงค่อยๆย้ายถุงนอนที่เปียกเข้าในเครื่อง

หมายเหตุ: ถุงนอนจะมีน้ำเข้าไปภายในและใยสังเคราะห์หรือ Loft ด้านใน จะจับกันเป็นก้อน นี่เป็นเรื่องปกติ Loft จะถูกทำให้แห้งและกลับคืนสภาพเดิมในตู้อบผ้าครับ

ขั้นตอนที่ 4 :
กดตั้งค่าความร้อน (กลาง) ลูกเทนนิสสะอาด จะช่วยเพิ่มพื้นที่ให้ถุงนอนแผ่ออกเวลาปั่นตอนอบแห้ง เพื่อให้ถุงนอนได้รับความร้อนทั่วถึง

หมายเหตุ: เครื่องอบผ้าตามบ้านจะไม่ใหญ่พอที่จะให้ถุงนอนกลิ้งได้อย่างอิสระ ถุงนอนจะต้องถูกหมุนขึ้นแล้วตกลงไปตรงจุดที่แห้ง ความร้อนสูงหรือเครื่องอบที่ใช้ตามบ้าน ซึ่งมีขนาดขนาดเล็กสามารถละลายผ้าใยสังเคราะห์ แนะนำให้ใช้เครื่องอบขนาดใหญ่ แบบฝาหน้า หรือตามร้านซักรีดจะดีกว่าครับ

ขั้นตอนที่ 5 :
ควรตรวจดูความคืบหน้าเป็นระยะ พยายามดูในส่วนฉนวน ถ้าจับตัวเป็นก้อน แสดงว่าใยสังเราะห์หรือ Loft ยังคงเปียกอยู่ ต้องรอซักครู่ครับ เพราะ Loft ที่ส่วนด้านล่างจำเป็นที่จะต้องรอให้แห้ง เมื่อแห้งสนิทแล้ว จึงนำถุงนอนกลับบ้าน ปลดซิบ และนำไปตากลมในช่วงเวลากลางคืน เพื่อปรับสภาพของ Loft เพราะจะช่วยถนอมใยสังเคราะห์ ที่อยู่ด้านในถุงนอนครับ

 

Trick & Tip :

เคล็ดลับในการยืดอายุการใช้งานถุงนอนของคุณ จริงๆ แล้วผมว่ามันเป็นวิธีง่ายๆ เพียงแต่เราไม่เคยสนใจตรงจุดนี้มาก่อนครับ เริ่มง่ายๆ เลยครับ ท่านผู้อ่านหลายๆ ท่านที่มีถุงนอน รวมถึงตัวผมเองด้วยนั้น โดยปกติแล้วเวลาเราเก็บถุงนอนที่บ้านในตอนที่ไม่ได้ใช้งาน เรามักจะเก็บใส่ถุงที่ให้มากับถุงนอนใช่ไหมครับ คือม้วนให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วเก็บใส่ถุงที่มีมาด้วย ซึ่งเล็กไม่ใหญ่มาก แต่นั่นเป็นวิธีการที่ผิดมากเลยครับ

การยืดอายุการใช้งานถุงนอนของเรานั้นเคล็ดลับง่ายๆ อยู่ที่การเก็บนี่เอง เราควรหาถุงหรือถุงตาข่ายที่มีขนาดใหญ่มาใช้เก็บถุงนอนครับ เพราะการที่เราม้วนถุงนอนให้เล็กมากๆ เพื่อเก็บใส่ในถุงที่เล็กนั้น ประหยัดพื้นที่เก็บก็จริงครับ แต่ตัว Loft จะถูกบีบอัดไว้ ทำให้เสื่อมสภาพไวกว่าได้ครับ ดังนั้นเมื่อเราใส่ถุงที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย เราก็ม้วนถุงนอนไม่ต้องแน่นมาก หรืออาจจะแขวนให้ถุงนอนทิ้งตัวในตู้เสื้อผ้ากับไม้แขวนเสื้อ จะทำให้ตัว Loft ไม่ถูกบีบ ตัวฉนวนก็จะคงสภาพความนุ่มและความอุ่นไว้ได้ ถุงนอนก็จะใช้ได้อีกนานครับ

ติดตามข้อมูลการทำความสะอาด และยืดอายุอุปกรณ์การเดินทางของคุณได้ ในบทความหน้าครับ ส่วนใครที่สนใจผลิตภัณฑ์ McNett ReviveX ก็สอบถามได้ที่ Safe House ครับ

Tags: , , , ,