เรื่องราวของน้ำในการดำรงชีวิต เป็นเรื่องที่ละเลยไม่ได้เลยครับ ยิ่งในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างภาวะน้ำท่วมแล้ว เราแทบจะไปหาน้ำสะอาดจากที่ไหนไม่ได้เลย ทั้งๆที่มีน้ำอยู่รอบตัวไปหมด ยิ่งผ่านไปหลายวัน น้ำก็จะยิ่งมีอันตรายมากขึ้นที่จะบริโภค ทั้งจากเชื้อโรค, จากซากสัตว์ที่ตาย และมูลปฏิกูลต่างๆที่อยู่ในน้ำ แหล่งปฏิกูลที่ถูกน้ำท่วม ระบบน้ำเสียที่เอ่อล้นออกมา ปนกันมั่วไปหมดแบบนี้ จะก่อให้เกิดโรคภัยที่ร้ายแรงได้ หากเราไม่เตรียมการไว้แต่เนิ่นๆครับ

ผมขอแนะนำหลอดกรองน้ำ ซึ่งเป็นอุปกรณ์กรองน้ำ ที่ใช้งานง่าย กะทัดรัด สะดวกพกพา และน้ำหนักเบา แต่คุณภาพการกรองสูงของ McNett ซึ่งมีด้วยกัน 2 รุ่น คือรุ่น Frontier และ Frontier Pro ที่ผ่านมาตรฐานกองทัพสหรัฐฯ โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ McNett ที่เกี่ยวข้องกับน้ำดื่มนั้น มีด้วยกันอยู่หลายตัว โดยใช้ชื่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตนว่า Aquamira(อความีร่า) เช่น ยาเม็ดปรับสภาพน้ำสำหรับดื่ม Aquamira Water Purification Tablet และหลอดกรองน้ำฉุกเฉิน Aquamira Frontier Pro ซึ่งเป็นสินค้าที่ผมจะมาแนะนำครับ

Frontier Pro นั้นถือว่าเป็นหลอดกรองน้ำ ที่มีขนาดเล็ก แต่ประสิทธิภาพสูงมาก มันมีขนาดใหญ่แค่ฝ่ามือ และเบาเพียง 56 กรัมเท่านั้น แต่ความทนทาน และประโยชน์ใช้งานมากมาย ยิ่งเป็น Frontier รุ่นธรรมดาด้วยแล้ว จะเล็กและเบากว่า แต่ผมจะมาแนะนำ Frontier Pro ให้ได้รู้จักกันมากขึ้น เพราะมันมีความแตกต่างจาก Frontier ธรรมดาอยู่ 3 ประการ คือ

1. มีวิธีการใช้งานที่ยืดหยุ่นกว่า Frontier รุ่นธรรมดา

Frontier รุ่น Pro นี่คือการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพจาก Frontier ให้ดีขึ้นครับ มันไม่ต้องการอุปกรณ์อะไรอื่นๆเพิ่มเติม สามารถใช้กรองน้ำดื่ม ได้หลากหลายวิธีด้วยกัน ตั้งแต่การต่อกับถุงน้ำโดยตรง โดยสามารถใช้งานร่วมกับขวดน้ำขนาด 28 มม. ชนิดเกลียว 3 ชั้น ทั่วไปได้เลย หรือจะหมุนเกลียวเอาวาวล์ปิดทางน้ำเข้าออก แล้วมาต่อเข้ากับขวดน้ำพับได้ทั่วไปอย่าง Platypus , Nalgene, Evernewฯ เพื่อใช้กรองไปดื่มไปได้ในตัว หากต้องการต่อเข้ากับถุงน้ำ ก็แค่ถอดเอาด้านจุกยาง UQC สีดำออก แล้วต่อเข้ากับหลอดจากถุงน้ำได้เลย จะแขวนทำ Gravity Filter ก็ทำได้ครับ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการรอ ให้น้ำจากด้านถุง “สกปรก” ไหลเข้าไปในถุง “สะอาด” อยู่บ้าง แต่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง เราก็จะได้น้ำสะอาดราว 1 ลิตร ที่ปลอดภัยพอจะดื่มได้แล้วละครับ แนะนำว่าในการใช้งาน ให้ใช้ปากกาเมจิกเขียนให้ชัดเจนที่ถุงด้าน สกปรกว่า “ห้ามดื่ม น้ำสกปรก” ไว้ด้วยนะครับ จะได้ไม่สับสนว่า ทางไหนดื่มได้ ดื่มไม่ได้  เห็นไหมครับแค่มีเพียง Frontier Pro กับขวดน้ำสองใบ เราก็ทำระบบกรองน้ำฉุกเฉินราคาประหยัดได้แล้วครับ

2. ปริมาณการกรองที่มากกว่า

ประสิทธิภาพการกรองในแง่ของความปลอดภัย ทั้ง Frontier และ Frontier Pro นั้นแทบไม่ต่างกัน ทั้งคู่สามารถดักจับโปรโตซัว, แบคทีเรีย และสารแขวนลอยอื่นๆ ที่มีขนาดไม่เล็กกว่า 0.2 ไมครอนได้ ดังนั้นคงมีแต่ไวรัสบางชนิดเท่านั้น ที่อาจหลุดรอดผ่านไส้กรองไปได้ แต่หากพูดถึงปริมาณการใช้งาน หรือจำนวนน้ำที่กรองได้แล้วนั้น ต่างกันอยู่ลิบลับครับ Frontier นั้นใช้งานได้สูงสุด 75 ลิตร ส่วน Frontier Pro ใช้ได้มากถึง 190 ลิตร ต่อไส้กรอง แล้วในเซ็ตมีแถมมาให้ อีก 3 ไส้กรอง รวมๆแล้วสามารถใช้กรอง น้ำสะอาดได้มากถึง 760 ลิตรทีเดียวครับ

3. รับรองการใช้และพิสูจน์การใช้งานจากกองทัพสหรัฐฯ

เป็นเวลาหลายปีมาแล้ว ที่ผลิตภัณฑ์ Mcnett ได้ถูกทดสอบและใช้งานในกองทัพสหรัฐ ที่ปฏิบัติงานอยู่กระจายกันไปทั่วโลก ตั้งแต่หนาวสุดๆอย่างอลาสก้า ไปจนร้อนสุดๆในอีรัค หรือหนาวๆร้อนๆแบบในอัฟกานิสถาน และ Frontier Pro เองก็ตามติดตัวทหารเหล่านั้นไปทุกที่ครับ อีกทั้งมันยังถูกเลือกให้เป็น 1 ในชุดยังชีพฉุกเฉินของนักเดินป่า และนักท่องเที่ยวผจญภัยทั้งหลายด้วย ฉะนั้นจึงไม่ต้องกังวลเลยเรื่องความน่าเชื่อถือและความทนทานครับ

แต่ก็ใช่ว่าเจ้า Frontier นั้นจะไม่ดีนะครับ ข้อได้เปรียบของมันก็คือ ขนาดที่เล็กและเบากว่า เหมาะกับการใช้เป็นเครื่องกรองฉุกเฉินประจำบุคคล หรือสำรองเมื่อ ตัวกรองหลักไม่สามารถใช้งานได้ คุณสามารถพกไว้ในชุดกระเป๋ายังชีพ และติดตัวเวลาไปเข้าป่า หรือหยิบติดตัว ในช่วงที่เริ่มมีการประกาศเตือนภัยน้ำหลาก, แผ่นดินไหว หรือภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งผมอยากจะแนะนำให้ใช้ เม็ดฆ่าเชื้อเพื่อทำน้ำดื่ม Aquamira Water Purification Tablet ไว้ด้วยครับ ในกรณีที่น้ำมีความสกปรกมากๆ หรือเราสงสัยว่าแหล่งน้ำที่ใช้ไม่ปลอดภัย ก่อนที่จะทำการกรองด้วย Frontier หรือ Frontier Pro ครับ

Aquamira Water Purification Tablet นั้นใช้งานง่ายมากครับ ใส่เพียง 1 เม็ดต่อ น้ำ 1 ลิตร รอให้ละลาย แล้วเขย่าให้เข้ากัน จากนั้นตั้งทิ้งไว้ราว 15-30 นาที ในน้ำอุณหภูมิปกติ หากอากาศเย็นจัดให้รอนานกว่านั้นครับ แต่ไม่เกิน 1 ชม. ไม่ว่าจะไวรัส แบคทีเรีย โปรโตซัว พยาธิต่างๆ จะตายหมด ด้วยปฏิกริยาของคลอรีนไดออกไซด์ ที่ไม่เป็นพิษตกค้างต่อร่างกายมนุษย์ และไม่มีกลิ่นหรือรสไม่พึงประสงค์ เหมือนการใช้ไอโอดีนครับ สามารถใช้ดื่มได้ติดต่อกัน หลายวันโดยไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ ใน 1 แผงนั้นจะบรรจุ 10 เม็ด สามารถบำบัดน้ำได้ถึง 10 ลิตร คิดเป็นปริมาณน้ำที่ต้องการสำหรับผู้ใหญ่ 1 คนนานถึง 5 วัน (ปริมาณที่แนะนำในภาวะปรกติคือ 2.5 ลิตรต่อวัน หากไม่ออกกำลังกายหนักครับ) ดังนั้น 1 แผง จึงเหมาะสำหรับใช้กับชุดยังชีพ 72 ชม. ของคุณแล้วครับ

สอบถามและเป็นเจ้าของหลอดกรองน้ำ Frontier Pro และ Frontier ได้แล้ววันนี้ที่ Safe House และหากคุณมีข้อสงสัยเรื่องของอุปกรณ์ยังชีพ แวะมาคุยกับเราสิครับ